ชาวรัสเซีย ถูกบุกปล้นคริปโตมูลค่ากว่า 1.8 ล้านบาท กลางร้านกาแฟ เกาะสมุย !

　　นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชื่อนายเอฟกีนี่ อับดุลลิน (MR.EVGENll ABDULLIN) อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย และนางเอกาเทอร์นา อับดุลลิน (MRS.EKATERNA ABDULLIN) สองสามีภรรยา สัญชาติรัสเซีย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ ทัพภะ สารวัตรสอบสวน สภ.เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะผู้เสียหายพร้อมภรรยานั่งดื่มกาแฟที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นชาวต่างชาติ จำนวน 6 คน เข้ามาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ได้ทรัพย์สินไปเป็นสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี จำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 1.87 ล้านบาท

　　.

　　ผู้เสียหายเล่าว่า ระหว่างที่นั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านได้มีชายฉกรรจ์ชาวต่างชาติ มีสัญชาติรัสเซีย เยอรมัน คาซัคสถาน จำนวน 6 คน เข้ามาล้อมผู้เสียหายไว้ และหนึ่งในนั้นทราบต่อมาชื่อ นายซัลมาน MR.SALMAN ALMATY สัญชาติเยอรมัน ได้เข้ามาพูดคุยโดยอ้างว่าเคยพบกับผู้เสียหายที่ประเทศรัสเซีย พร้อมทั้งข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินสกุลดิจิทัลหรือคริปโทเคอร์เรนซี จำนวน 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยได้ 112 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายมีคริปโทเคอร์เรนซีอยู่เพียง 5.8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 2.180 ล้านบาท และกลัวว่าจะถูกทำร้ายร่างกายจึงได้โอนคริปโตเคอร์เรนซี จำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทย 1.87 ล้านบาท

　　.

　　จากนั้นนายซัลมาน อัลมาตี ได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้พร้อมกล่าวว่าจะกลับมาไถเงินอีก ก่อนชายฉกรรจ์ทั้ง 6 คนจะเดินออกจากร้านไป โดยมี 5 คนขึ้นรถตู้คันสีดำ และ 1 คนขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก 125 สีแดง

　　.

　　นายเอฟกีนี่ ผู้เสียหาย กล่าวว่าขณะที่กำลังขับรถออกจากบ้านเพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ระหว่างทางได้สังเกตเห็นมีคนคอยติดตามจึงได้รีบกลับบ้าน และได้สายโทรศัพท์โทรเข้าจาก Telegram สอบถามว่าตนเองได้หาเงินสกุลคริปโทเคอร์เรนซีได้หรือยัง ถ้าหาได้ให้รีบโอนมาอีก หรือมีเงินสดให้ไปเปลี่ยนเป็นเงินสกุลคริปโตเคอร์เรนซี และให้โอนผ่านแพลตฟอร์ม Bybit แต่ตนเองไม่ได้โอนเพราะไม่มีเงิน ซึ่งเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ตนเองมีความกลัวอย่างมาก จึงได้ตัดสินใจแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

　　.

　　พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทราบว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ต่างชาติทั้ง 6 คน มีชาวคาซัคสถาน 2 คน เยอรมัน 2 คน รัสเซีย 1 คน และอีก 1 คน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ และจากข้อมูลการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทราบว่า นายซัลมาน อัลมาตี สัญชาติเยอรมัน ได้เดินทางออกจากประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. และชาวคาซัคสถาน 1 คน เดินทางออกจากประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ก่อนที่ผู้เสียหายจะเข้าไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

　　ข้อมูลจาก : www.matichon.co.th/