ปั่นคริปโตฯ ผิดกฎหมาย! ก.ล.ต. ลุยสอบ 3 เหรียญ ‘KUB-JFIN-SIX’ พบผันผวนสูง ย้ำแพลตฟอร์มเทรดมีหน้าที่ช่วยตรวจสอบและรายงานผลให้รับทราบ
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีสัญชาติไทยอย่างน้อย 3 เหรียญคือ Bitkub Coin (KUB), JFIN Coin (JFIN) และ Six Coin (SIX) มีการเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงผิดปกติ โดยคนในแวดวงการลงทุนต่างมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าน่าจะมีผู้ที่พยายาม ‘ปั่น’ ราคาเหรียญขึ้นไปแล้ว ‘ทุบ’ ลงมา ทำให้ผู้ลงทุนที่กลัวตกรถ หรือ FOMO (Fear of Missing Out) ซึ่งเข้าไปลงทุนในช่วงปลายขาขึ้น ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการที่ราคาเหรียญถูกทุบลงมา
การที่ราคาเหรียญทั้ง 3 ซึ่งซื้อขายอยู่บนแพลตฟอร์มของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นั้น ทำให้เกิดคำถามจากนักลงทุนบางส่วนในแวดวงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีว่า ก.ล.ต. ได้เข้าไปตรวจสอบการซื้อขายและสามารถเอาผิดกับผู้ที่พยายาม ‘ปั่น’ เหรียญเหล่านี้ได้หรือไม่
ทีมข่าว THE STANDARD ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยัง รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งเธอให้คำตอบว่า พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 หรือ พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล ได้นำเอาบทบัญญัติการกระทำอันไม่เป็นธรรมจากพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 หรือ พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ มาใช้ ดังนั้น ก.ล.ต. ได้ติดตามและตรวจสอบตามขั้นตอนว่ามีการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือไม่ โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ติดตามและพบว่าราคาของ 3 เหรียญ (KUB, JFIN, SIX) มีความผันผวนอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ
ทั้งนี้กฎหมายกำหนดให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีหน้าที่ตรวจสอบการซื้อขายทำนองเดียวกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็น Front Line Regulator มีหน้าที่ให้คำเตือนกับผู้ซื้อขาย หากมีราคาผันผวนสูงตามระดับที่ศูนย์กำหนดใน Listing และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมีหน้าที่ต้องรายงานผลการตรวจสอบให้ ก.ล.ต. โดยปกติแล้ว ก.ล.ต. มีอำนาจในการตรวจสอบการซื้อขายและการทำหน้าที่ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ส่วนคำถามที่ว่า หากตรวจพบว่ามีผู้ที่กระทำผิดโดยปั่นหรือบิดเบือนราคา ก.ล.ต. สามารถดำเนินการเอาผิดได้หรือไม่นั้น รื่นวดีกล่าวว่า ด้วย พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล ได้เอาบทบัญญัติการกระทำอันไม่เป็นธรรมจาก พ.ร.บ. หลักทรัพย์ มาใช้ จึงมีบทบัญญัติเรื่องการปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายใน การให้ข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง หากมีการกระทำในกรณีดังกล่าวกับสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทที่กำหนด จะเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่ง ก.ล.ต. จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการซื้อขายหรือให้ข้อมูลดังกล่าว
นอกจากนี้ รื่นวดี กล่าวด้วยว่า ก.ล.ต. ขอแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังในการลงทุน ตามที่ ก.ล.ต. ได้ให้คำเตือนมาตลอด โดยก่อนลงทุนควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ศึกษาข้อมูลให้เข้าใจลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัล และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา ที่ชักชวนลงทุนโดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง
2. สำรวจว่าตนเองสามารถรับความผวนสูงได้ เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูง ประเมินมูลค่าได้ยาก และอาจเป็นเพียงการลงทุนเพื่อเก็งกำไร
3. ประเมินตนเองว่าสามารถยอมรับการสูญเสียของเงินลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน
4. หากไม่เคยลงทุนในหลักทรัพย์มาก่อน ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
5. ควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยไม่เป็นภาระต่อตนเองและครอบครัว เพราะมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อน
6. หมั่นติดตามบัญชีลงทุนอยู่เสมอ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
0.00
ICONOMI
Boerse Stuttgart
IC Markets
BULL BITCOIN
coinsquare
Counos Decentralized Exchange
NETELLER
ATFX
DEEPCOIN
EXSCUDO